ทริคเปิดร้านทุกอย่าง20บาท ทำอย่างไรให้รับทรัพย์

ต่อไปจะมาแชร์ 9 ทริคการทำธุรกิจร้านทุกอย่าง20บาท อย่างไร.. ให้ไปรอดและรับทรัพย์ได้ยาว ๆ

1. ขายแบบเน้นปริมาณ — การเน้นการลงสินค้าเยอะ ๆ ขายให้ได้ต่อวันทีละเยอะ ๆ เป็นจุดเด่นของร้าน 20 บาท เนื่องจากสินค้าราคาถูก กำไรต่อชิ้นได้น้อย จึงต้องเน้นปริมาณในการขาย เพื่อให้ได้กำไรมากขึ้น

2. สินค้ามีความหลากหลาย — หากคุณได้อ่านหัวข้อที่ 5 เรื่องการสต็อกสินค้าแล้ว จะเห็นได้ว่าหมวดหมู่ของสินค้าที่เรานำมายกตัวอย่างให้ดูมีเยอะมาก สต็อกสินค้าควรให้มีความหลากหลาย เพื่อที่จะเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า เมื่อพวกเข้าเดินเข้ามาเลือกซื้อของ พวกเขาจะได้เลือกหยิบไปหลาย ๆ ชิ้น หลายประเภท เผื่อเหลือเผื่อขาด

3. ขายสินค้าราคาอื่นร่วมด้วย — ร้านทุกอย่าง 20 บาท ในยุคนี้เป็นแค่ชื่อไว้เรียกติดปากเท่านั้นแหละค่ะ เพราะจริง ๆ แล้ว ร้านประเภทนี้ในปัจจุบัน มันก็คือร้านขายสินค้าเบ็ดเตล็ด สินค้าจิปาถะ และสินค้าอุปโภค-บริโภคทั่วไปภายในครัวเรือน

ซึ่งก็จะคล้ายกับร้านไดไซะของญี่ปุ่นเลย และผู้ใช้ Pantip ที่มีประสบการณ์ยังบอกไว้อีกว่า ร้านที่ขายสินค้าราคาเดียว มีโอกาสที่จะไม่รอดสูง เพราะไม่มีความหลากหลาย การนำสินค้าที่ราคาแตกต่างกันมาขาย จึงเป็นทริคที่แทบทุกร้านใช้กัน

4. มีโปรโมชั่น — มีการ จัดโปรโมชั่น เพื่อกระตุ้นลูกค้าให้ซื้อสินค้ามากขึ้น เช่น โปรโมชั่นซื้อ 2 แถม 1, โปรโมชั่นส่งฟรีในพื้นที่ใกล้เคียง หากซื้อสินค้าขั้นต่ำ 100 บาท เป็นต้น

5. โปรโมทในโซเชียล — ควรมีเพจ Facebook เพื่อพูดคุยสื่อสารกับลูกค้า สำหรับแจ้งข่าวสารต่าง ๆ เช่น ร้านปิด มีโปรโมชั่น

รวมถึงมีไลน์สำหรับสั่งซื้อสินค้า มีการอัพเดตรูปใน Google my businees เพื่อให้หน้าร้านดูมีความน่าเชื่อถือด้วย หากลูกเห็นการอัพเดตของเราบ่อย ๆ เขาจะคุ้นเคยกับร้านของเรามากขึ้น และมีโอกาสที่จะเข้ามาซื้อสินค้ามากขึ้นด้วยค่ะ

6. อัพเดตเทรนด์ใหม่ ๆ เสมอ — ต้องคอยอัพเดตว่าเทรนด์สินค้าในแต่ช่วงมีอะไรบ้าง เพื่อที่จะนำมาขายได้ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์ข้าวของเครื่องใช้ เทรนด์ของเล่นสำหรับเด็ก ๆ หรือเทรนด์สินค้าช่วงเทศกาล เช่น ช่วงโควิด19 > นำแมสก์มาขาย ช่วงปีใหม่ > นำสายรุ้งประดับมาขาย

7. เติมสต็อกบ่อย ๆ — พยายามอย่าให้สินค้าขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าขายดีที่ลูกค้ามักจะถามหาอยู่เป็นประจำ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกค้าเข้ามาซื้อแล้วสินค้าไม่มี และไม่ได้อะไรติดมือไป ร้านของคุณจะถูกจดจำแบบนั้น ลูกค้ามีโอกาสที่จะไม่กลับมาซื้ออีกได้นะ

8. ถามฟีดแบ็กลูกค้า — คนที่จะตอบคุณได้ว่าควรนำสินค้าแบบไหนมาขาย ก็คือลูกค้า หากคุณเลือกทำเลได้แล้ว และคุณนำสินค้ามาขายแล้ว แต่ยังไม่ตอบโจทย์ลูกค้าเท่าไหร่นัก ให้คุณสอบถามลูกค้าที่เดินเข้ามาซื้อว่า ร้านของคุณขาดเหลืออะไรบ้าง เพื่อที่คุณจะได้นำสินค้ามาขายให้ตรงกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการนั่นเอง

9. บริการที่ดี — สิ่งสำคัญที่คุณไม่ควรมองข้ามเลยคือ บริการที่ดีและอัธยาศัยของคนขาย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของร้านหรือพนักงานในร้าน ควรพูดคุยกับลูกค้าด้วยน้ำเสียงที่น่าฟัง ควรให้คำแนะนำที่ดีกับลูกค้า และไม่ควรแสดงกิริยาแย่ ๆ กับลูกค้าเลยค่ะ เพราะเมื่อพวกเขาถูกปฏิบัติแย่ ๆ ด้วย พวกเขาจะจำไว้ และไม่กลับมาซื้อที่ร้านของคุณอีก